หนิง ปณิตา ร่ำไห้เปิดเผย จิน เป็นข้างขอหย่า

[Joe524]

"หนิง ปณิตา" ลั่นยังไม่หย่า แต่ว่าเซ็นกติกากันเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้อยากต้องการจบแบบไม่ชอบ เปิดโปงจินท้าทายหย่ามาตลอด มีสตรีครั้งก็ขอหย่าที ปัจจุบันนี้สุดแรงเอื้อมแล้ว ขอหมดปัญหาเอง พร้อมเผยขอปฏิบัติหน้าที่เมียหลวงที่ถูกต้องตามกฎหมาย ฟ้องบุคคลที่สามเรียบร้อยแล้ว พร้อมฝากถึงสามี ขอให้ทำอะไรให้ลูกกระหยิ่มใจว่าบิดารักลูก !

หลังจากที่มีข่าวสารค้างคาว่าจะหย่าไหมหย่า ล่าสุด "หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ" ก็ได้ออกมาเคลียร์หมดเปลือก ถึงเรื่องราวชีวิตสมรสกับ "จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ" ผ่านรายการคุยแซ่บโชว์วันนี้ (24 เม.ย.) เปิดเผยสามี มีเพศหญิงทีก็ขอหย่าหน ที่ผ่านมาท้าทายหย่าตลอด จนกระทั่งรู้สึกอ่อนเพลีย และก็อยากจบ เพราะว่าไม่อยากชัง ในเวลาที่ในตอนนี้แยกกันอยู่ ยังไม่เซ็นหย่า แต่ว่าพร้อมหย่า และก็ได้ทำข้อตกลงกันเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว
"การมาสัมภาษณ์วันนี้ได้สนทนาและปรึกษาณิรินแล้ว เขาก็พร้อมจะเข้าดวงใจ มีการคุยเป็นขั้นตอนเป็นระเบียบ กลายเป็นผลึกกันแล้วว่าการสอนจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและก็แก้ไขปัญหาจากความเป็นจริงน่าจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม

ปัจจุบันที่โพสต์ ถามคำถามว่าตกลงใจอย่างไร ยอมรับว่าสภาพจิตใจเรา มองเห็นพวกเราเป็นแบบงี้ เราเพียรพยายามสตรองมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นจริงๆไม่ใช่คนสตรองเลย ตัดสินใจนานนะกว่าจะโพสต์อย่างงั้น ถ้าหากก่อนหน้าคิดปุ๊บทำปั๊บทันที ตอนนี้คิดปุบปับเขียนเสร็จ นั่งถอยมาสองชม. หรือทำอะไรช้ามาก ดึงจนกระทั่งบางคนไม่เข้าใจว่าดึงอะไร แม้กระนั้นเมื่อตัดสินใจทำแล้ว ขอให้เกิดข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด"

เหตุผลที่คิดว่าพร้อมพูดได้ไพเราะเพราะพริ้งสุดแรงเอื้อม ขอจบปัญหาเอง
"เริ่มกระทบ และก็ลุกลามไปคนบริเวณข้าง พวกเรามีความคิดว่าเรื่องนี้พวกเราน่าจะเคลียร์หลังบ้านได้ แม้กระนั้นได้รับการเคลียร์ข้างหลังบ้านมาราวๆนึงแต่ว่ามันไม่สำเร็จ มันไม่ควรมีข่าวสารเกิดขึ้นอีก แต่ว่าข่าวเกิดขึ้นเรื่อยการตัดสินใจเรื่องครอบครัวเกิดเรื่องใหญ่ ตัวหนิงจุดบกพร่องในชีวิตเป็นตกลงใจเร็ว แรง ใจร้อน แต่เรื่องก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น การใช้ชีวิตหลายๆเรื่อง มูลเหตุ หนิงไม่ผิด แต่ว่าจบด้วยหนิงเป็นคนผิดทุกครั้ง ด้วยเหตุว่าหนิงขาดสติและก็ใช้อารมณ์ มันเป็นปมในใจหนิงตลอดๆเพียรพยายามปรับแก้ที่ตรงนี้ เพราะกำลังสอนลูกให้ดำรงชีวิตอย่างมีสติกับสังคมที่เกิดอะไรก็ไม่เคยรู้หนิงแข็งแรงซึ่งๆหน้าทุกคน แม้กระนั้นเวลาถอยไปอยู่คนเดียว คนใกล้ตัวจะมีความเห็นว่าหนิงคืออะไร เมื่อสุดแรงเอื้อม หนิงขอหมดปัญหาเองดีมากกว่า

ตลอด 10 ปี ปรับเยอะมาก ทุกวิถีทาง จากเป็นเพศหญิงทำงานแล้วกลับไปอยู่ที่บ้าน เพราะเหตุว่ากลัวแก่ กลัวไม่สวย งานเลี้ยงบ้าง ไปเที่ยว แม้กระนั้นระยะยาวมันนานเข้าก็รู้สึกว่ายามเช้าหญิงจำต้องดำเนินงาน แล้วหนิงทำงานมิได้ มันก็ไม่ใช่ตัวหนิง เราก็ต้องกลับมาในจุดที่เป็นตัวหนิง มันอิดโรยค่ะ ปรับสุดแต่ยังไม่ดี ไม่รู้จักว่าจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากที่ไหน ปัญหานี้มีมาเรื่อยๆตั้งแต่มีข่าวเร่งด่วนโตในสมัยก่อน จากนั้นก็มีมาอีกเรื่อยมนุษย์เราเพียงพอปรับไปเรื่อยๆใช้ชีวิตหลายๆอย่าง บางทีเราก็เห็นด้วยว่าพวกเราก็ไม่ถูก เราไปจิก ไปตาม หลายๆอย่าง จนท้ายที่สุดพวกเราก็ยอมรับ ถ้าเกิดจะมีลูกเลยก็ทำใจได้

ถ้าเขามีหญิงอื่นในเวลาที่เราอยู่ในสถานะภรรยาก็ยอมรับได้ แต่จำต้องไม่ล้ำเส้นกัน ต้องไม่ให้พวกเราออกมาพูด ออกมาเคลียร์ ไม่กระทบกับความรู้สึกลูกเรา คิดว่าชีวิตก็คงจะอยู่ตัวแล้ว ไม่คิดไม่ฝัน ขณะนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันจริงใช่ไหม แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจริง จะหลอกตัวเองว่าไม่จริง แล้วปล่อยให้เรื่องเฉยๆซาๆแล้วออกมาพูดเสียงค่อยๆแล้วปลดปล่อยให้เงียบๆเหมือนก่อนหน้านี้ มันทำมาตลอด แม้กระนั้นในวันนี้มันแรงขึ้น เลยตกลงใจว่าผ่าตัดทีเดียวให้มันจบ แล้วรักษาแผล รักษาใจต่อจากนี้ ให้เดินไปด้านหน้าได้อย่างมีพลัง"

ลั่นไม่ได้อยากต้องการชังจิน อยากที่จะให้ได้โอกาสประสานมือกันเพื่อลูก คิดตั้งแต่ปลายปี ปลดปล่อยให้มีอิสระ จะทำอะไรก็ทำ
"ตัดสินใจบอกวันนี้ เชื่อว่าจบอย่างนี้ หนิงก็มีส่วนไม่ถูก แต่หนิงทำในส่วนที่หนิงผิดดีที่สุดแล้ว หนิงไม่อยากเกลียดชังจิน อยากที่จะให้วันนี้มีโอกาสจับมือกับจินเพื่อลูก แต่ว่าถ้าดึงไปมากกว่านี้ หนิงไม่ได้อยากนั่งแอ๊บ มนุษย์เราบอบช้ำไม่น้อยเลยทีเดียวแปลงจากความช้ำเป็นไม่ชอบ รักเยอะ รักมากมายก็ชิงชังมากหนิงไม่อยากรังเกียจ ต้องการประสานมือกับเขาต่อ แต่ในสถานะบิดาของลูกหนิงไม่ใช่สถานะเขาเป็นผัวหนิง หนิงพินิจมาจนสุดแล้ว แล้วก็น่าจะเป็นแนวทางที่ยอดเยี่ยมที่สุด และเป็นวิธีที่จินเองจะได้มีอิสระ ทำทุกๆอย่างได้มีความสุข ไม่ทำให้คนใดเสีย

คิดก็ดีแล้ว หนิงคิดมาตั้งแต่ท้ายปีที่แล้ว ที่ผ่านมาเราสองคนทะเลาะกัน เขามั่นใจว่าพวกเรารักเขา แม้กระทั่งเขาทำยังไงเราก็ให้อภัย หนิงก็แน่ใจว่ารักเขามาก ก็มีการท้าหย่ากันเบาๆตลอดระยะเวลา แต่ระยะหลังพูดบ่อยครั้ง มิได้บอกกับหนิง แต่ว่าไปพูดกับเพื่อนฝูง คนรอบข้างหนิง เพียงพอคนรอบข้างหนิงมาถามว่าจะหย่ากันเหรอ หนิงก็ขำ บ้าๆบอๆ คนใดกันแน่จะไปหย่ากับมัน"

ข้างชายเป็นคนพูดขอหย่า มีสตรีครั้งก็ขอหย่าครั้ง แถมพูดว่าต่อให้ไม่มีสตรีคนนี้ก็เลิก
"กระทั่งช่วงที่หนิงไปอยู่เที่ยวที่ประเทศเกาหลี เป็นข่าวตอนวาเลนไทน์ ข้างหลังกลับมาที่เมืองไทยแล้ว พี่ๆที่ยกย่องของหนิงและจินเอง หลายๆท่านก็ทนไม่ไหว ก็เรียกให้มาสะสาง มาคุย แต่ว่าการพูดวันนั้น ก็ยังพูดว่าต้องการจะหย่า จินเป็นคนพูด

มีสตรีทีก็ขอหย่าคราว หนิงอ่อนแรง มันกระทบกับครอบครัว ทุกความข้องเกี่ยวไม่มีผู้ใดไม่มีปัญหา แต่ว่าทุกความเกี่ยวข้องจะดีขึ้นต้องได้รับความร่วมแรงร่วมใจทั้งสองฝ่ายที่จะปรับปรุงแก้ไขพวกเราเคยคุยกันแต่ก็จบแบบเดิมๆพี่เป๊กเรียกไปนั่งคุย ก็จบว่าพวกเราจะก่อให้ดีเยี่ยมที่สุด แต่หลังจากกลับจากเกาหลี ก็ยังยืนยันในแบบนี้ ด้วยคำกล่าวที่ว่าถึงแม้ว่าจะไม่มีสตรีคนนี้ก็เลิก จินเป็นคนพูด ได้ แล้วเราจะรับผิดชอบลูกร่วมกันเช่นไร เขาก็ให้ข้อเสนอมา 1 234 ทำข้อตกลง 1 ฉบับเพื่อยื่นให้ทนาย ทำถูกต้องตามกฎหมาย

คนบางทีอาจรู้สึกว่ากติกาหนิงต้องได้อะไรเยอะแยะมากมาย ขอใช้พื้นที่ที่ตรงนี้เคลียร์เอง คนเข้าใจว่าดาราสมรสกับคนมั่งคั่งเนื่องจากเราอยากมีความสุข ต้องการใช้เงินเขา พวกเราก็เลือกเอง อยู่งามๆใช้เงินไป โคตรเจ็บ เพศหญิงคนนี้ดำเนินการอายุ 15 ส่งน้องเรียน 3 คน จบการศึกษาที่ดีมากทุกคน ดูแลแม่ สมรส ไม่เคยไปตกระกำลำบากหรือพึ่งพิงอะไรจินเลย หนิงดูแลตนเองทั้งปวง"

เอกสารไม่จบเพราะฝ่ายสามีไม่ทำอะไรเลย
"แต่ว่าเอกสารนี้ที่ไม่จบ คือจิน ไม่มาทำอะไร ในสิ่งที่จิน ตกลงว่าจะทำ สิ่งที่ห่วงที่สุดเลย ถ้าหากวันใดวันหนึ่งเกิดกับชีวิตหนิง คนเป็นแม่จะทราบดีว่าความยั่งยืนและมั่นคงของลูกเราจะเป็นยังไงในอนาคต หนิงห่วงอยางเดียวคือณิรินเท่านั้น สิ่งที่หนิงขอให้ทำกับณิริน เป็นเรื่องเล็กมาก ถ้าเกิดหนิงจะทำสิ่งเหล่านั้นเองในวันนี้ หนิงก็ทำได้ แม้กระนั้นหนิงมีความคิดว่าขั้นต่ำให้ลูกพึงใจว่าบิดาได้ทำหน้าที่การเป็นบิดาให้กับลูก หนิงก็เชื่อว่าเขารักลูก แต่ว่าหนิงไม่ได้อยากอะไรที่เป็นปากเปล่า ปากเปล่าคนไหนจะพูดอะไรก็ได้ พอพวกเราแยกสถานภาพความเป็นสามีภรรยาเราเป็นคนนอก พวกเราไม่มีสิทธิ์อะไรไปสั่งเขา พวกเราควรจะทำเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นเอกสาร ถ้าหากวันนึงแยกกัน เป็นเพื่อนกัน พวกเราจำเป็นต้องไม่ทะเลาะกันด้วย จะต้องคิดอะไรละเอียดและก็ไกลๆถ้าจะต้องทะเลาะกันในฐานะความเป็นเพื่อน ก็ไม่ต้องเลิกร้างดีกว่าไหม"
เซ็นข้อตกลงเรียบร้อย แต่ยังไม่เซ็นหย่า
"เอกสารนี้หนิงได้เซ็นเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เป็นเพียงแค่กติกา ยังมิได้มีการจด เซ็นใบหย่าอะไรก็แล้วแต่จากวันนั้น จนถึงวันนี้ หนิงก็รอการที่จะมาเคลียร์ว่าจะทำอย่างไร แล้วก็หนิงมิได้รับการเคลียร์ตรงนั้นเลย ซึ่งหนิงไม่ทราบต้องประพฤติยังไง พอมีข่าวก็ไม่รู้เรื่องจะตอบยังไง เพราะเหตุว่ากำลังแก้ไขปัญหาข้างหลังบ้านให้เหมาะสมที่สุด หวังว่าเดี๋ยวก็กลับมาน่ะ แม้กระนั้นข่าวล่าสุด ข้างหลังบ้านมีอะไรวุ่นวายกว่านั้นมาก จนกระทั่งหนิงคิดว่าถ้าเกิดหนิงไม่นำก็ไม่จบ"

ทราบเพราะว่าณิรินมาเล่าให้ฟัง
"คนเข้าใจนี้คือลูก และเป็นคนมาเล่าให้ฟัง ทีแรกๆคิดว่าเป็นเรื่องขำ ตลกขบขัน มีความคิดว่าณิรินพูดหยอกเล่น ห่วงพ่อ ไม่คิดว่าเกิดเรื่องจริง พวกเราก็ไม่ต้องกลับไปบอกอะไรกับเด็ก เราจะต้องไม่ไปซ้ำเรื่องเดิมกับเด็ก หน้าที่แม่เป็นประคองข้อเท็จจริงที่เขาทราบ ให้เขารู้เรื่องเรื่องจริงที่เด็กควรรู้เรื่อง เรามีอะไรก็จะพอเพียงเดาทางลูกถูกว่าเขาเข้าใจแบบติดลบหรือเชิงบวก หรือกลาง

หนิงผ่านการสนทนากับลูกเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ณิรินไม่รู้เรื่องการเลิก เขากลัวว่าเขาจะไม่ได้พบคุณอากับคุณปู่ แล้วก็รองลงมาเป็นป๋าเขา เราก็พูดว่าไม่มีปัญหาเลย แม่ก็ยังเป็นบุตรสาวและเป็นพี่สาวอา และก็เป็นเพื่อนบิดา หนิงคิดทบทวนแล้วทบทวนอีก จนมั่นอกมั่นใจ นี่คือผ่านวิธีการความคิดของหนิง มานานมากแล้ว"
อยากหย่า ถึงเจ็บแต่ว่าไม่อยากชิงชัง ฟ้องมือที่สามแล้ว
"ถามคำถามว่าต้องการหย่าไหม ต้องการนะ เจ็บไหม เจ็บ แม้กระนั้นหนิงไม่อยากเกลียดชัง อยากที่จะให้จินเป็นพ่อที่น่ารักของลูก หนิงมีความคิดว่าเป็นทางออกที่เยี่ยมที่สุด หนิงกับลูกนอนคุยกับทุกเรื่อง เขารู้ทุกเรื่อง เขาก็โอเค

จุดเริ่มหนิงมิได้ผิด แต่ว่าจุดสิ้นสุดหนิงผิดตลอดเวลาด้วยเหตุว่าความไม่มีสติ ฟาดฟันอาละวาด ด่าว่า คุณให้ข่าวอย่างนี้ ฉันให้ข่าวหนักกว่าคุณ แม้กระนั้นวันนี้พากเพียรปิดทุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้เงียบที่สุด หนิงใช้แนวทางตามกฎหมาย หากแม้ไม่ได้เซ็นหย่า ใช้วิธีโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามภรรยา เมียหลวงที่จะต้องมี เขามีข้อบังคับให้จัดแจง หนิงได้ฟ้องบุคคลที่สาม ซึ่งศาลรับฟ้องเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว

ปวดใจณิรินเจอปริศนาที่สถานที่เรียนครั้งใดก็ตามเป็นข่าว
"ณิรินพบคำถามที่สถานศึกษาเมื่อใดก็ตามเป็นข่าว มันปวดมากนะ ณิรินไม่มาเล่า หนิงไปทราบจากแม่คู่หูณิรินแล้วหนิงก็ถามลูกว่าเพราะเหตุไรไม่มาเล่าให้แม่ฟัง คำตอบของณิรินเป็นเขาเห็นแม่เครียด มีปัญหามากมายล้นหลาม หนูไหวแม่ หนูโอเค หนูสบาย (เสียงสั่นเครือ) เขาบอกทุกคนจะถามเขา เขารู้กันอีกทั้งสถานศึกษาแหละแม่ ณิรินก็ตอบว่าใช่ ก็บิดาฉันล่ะมีข่าว แม้กระนั้นเขายังรักกันนะ เขาเป็นเพื่อนกัน

วันนี้หนิงกล่าวก็ส่งผลกระทบ หนิงไม่กล่าวก็ก่อให้เกิดผลกระทบ แต่ถ้าเกิดไม่ตกลงใจเป็นผู้นำแก้ปัญหาครั้งนี้ ผลพวงระยะยาวจะหนักกว่า แล้วก็หนิงมั่นใจว่าทุกคนรู้เรื่องหนิง ก่อนหน้ามารายการนี้ หนิงก็ขอคำแนะนำมากที่สุด คนสำคัญที่สุดในชีวิตเลยก็คือลูกแล้ว

ในขณะนี้รอคอยจัดการให้แจ้งชัด ว่ายังไง อย่างที่บอก เงียบก็เสี่ยงให้คนรู้ผิด บอกก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการที่คนไม่เข้าใจพวกเราจะไม่รู้เรื่อง แต่อย่างที่บอก ข้อผิดพลาดในชีวิตหนิงมากที่สุดคือทำอะไรก็ขาดสติ เวลาเรื่องเพื่อนพ้อง พร้อมเป็นด่านหน้า แม้กระนั้นพอเพียงเรื่องตัวเองล้มหมดท่า ล้มและก็ลุกขึ้นยืนมาทวน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นด้านหน้า หนิงตกลงใจพูดอย่างมีสติสัมปชัญญะที่สุดแล้ว

(ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองเชื้อสาย ผู้จัดรายการ กล่าวว่านี่คือความเข้มแข็งที่สุดสำหรับความเป็นแม่ ทำหนิงก้มตัวร้องไห้) สิ่งที่อยากให้คนเข้าใจ บากบั่นมากเลยนะ ต้องการที่จะให้คนเห็นความพากเพียรของหนิง ในขณะที่มันห่วยแตก (ร่ำรวยญ่า-เบนซ์ พรชิตาเข้าไปกอด) ไม่อยากที่จะให้คนเห็นน้ำตาว่าพวกเรามานั่งร้องไห้ อยู่บ้านเราก็ยิ้ม แต่ราวกับเล่นละคร ร้องไห้อยู่ภายใน ฝืนยิ้มเพื่อทำให้ลูกพวกเราไม่รู้จักสึกอะไร

ให้อภัยแล้ว แม้กระนั้นอย่างน้อยขอให้ทำให้ลูกยินดีว่าบิดารักเขา
"ถามคำถามว่าต้องการบอกอะไร จริงๆคุยทุกเรื่องแล้ว เกิดเหตุก็พยายามคุย แต่ว่าเขาไม่คุย หนิงก็ใช้วิธีส่งข้อความ คุยทุกเรื่องในหลายๆเวอร์ชั่นแล้ว ถามคำถามว่ายังรักไหม รักในวันหน้าที่จะเป็นเพื่อลูกได้ อยากกล่าวว่าให้ทำเพื่อลูก ไม่ต้องทำเพื่อหนิง ส่วนของหนิงมันจบแล้ว ที่เหลือทำเพื่อลูก

ยายบอกหนิงเสมอว่าคนเราจะจัดการกับปัญหาอะไรได้ จำต้องเห็นด้วยข้อเท็จจริงและยอมจบ ถึงจะเริ่มของใหม่ได้ จำเป็นต้องยอมจบก่อน หากไม่ยอมจบจะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ หนิงอยากที่จะให้หนิงกับจินอยู่ในสถานะพ่อและก็แม่ที่ดีของลูก ต้องการที่จะให้ทำทุกอย่างเพื่อความยั่งยืนและมั่นคงของลูกที่แจ้งชัด ไม่ใช่เพื่อหนิง หนิงไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอยู่กับใครกันแน่ อะไรก็ได้ ที่ดีที่สุดสำหรับลูก ให้จัดการให้ลูกซะ จะมากจะน้อยขอให้ทำให้ลูกมีความภาคภูมิใจว่าพ่อรักเขาในตอนนี้ขอแยกกันอยู่สักพัก แต่หนิงมีแต่ว่าความประสงค์ดี หนิงก็ต้องการที่จะให้เขาได้เจอคนที่แมตซ์กับเขา เข้าใจเขา และก็อยู่กับเขาจริงๆถ้าเกิดเขาเป็นสุข ลูกเราก็แฮปปี้ด้วย

หนิงให้อภัยเขาไปนานแล้ว หนิงช่วยทำทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว แค่มีคนเห็นว่าหนิงเปลี่ยนในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น เท่านี้ก็มีกำลังใจแล้ว (ร้องไห้) หนิงเป็นคนห่ามๆแจ่มชัด แต่ว่าคนก็ถูกมองดูติดลบ หนิงอัดมาทั้งยังรายการไม่มีน้ำตา (ร้องไห้) เพียงแค่มองเห็นในมุมบางๆว่าหนิงกลับตัวกลับใจได้ อยากเป็นแม่ที่ดีเพื่อลูกเท่านั้นเอง ข้างหลังเทปนี้ถ่ายทอดไป ก็ไม่ต้องมาถามอะไรหนิงแล้ว ยุคนี้ยุคไหนแล้ว อย่าทนเพื่อเกลียดชัง"
หนิง ปณิตา
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13824/