• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้ทราบ จากการเป็นลูกจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by Prichas, April 05, 2023, 09:48:12 PM

Previous topic - Next topic

Prichas

1. เพราะว่าพวกเราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานอย่ างเดียว

พวกเรามิได้ดำเนินงานแล้วแฮปปี้วันแล้ววันเล่า หลายหนที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แม้กระนั้นหากพวกเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต อย่างเช่น วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ และยังรวมไปถึงต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่พวกเราชอบจะทำให้อารมณ์เบิกบานขึ้น และก็ เพิ่มความแน่ใจ เพราะว่าการเฟลจากที่ดำเนินการส่วนมากมักทำให้พวกเราท้อแท้ใจ และขาดความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง สำหรับเรามันส่งผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน และก็ อีกเพียบเลย


ยกตัวอย่ าง... มีเพื่อนฝูงคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามาก ตั้งใจจริงขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ ในเวลานี้ดำเนินงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จวบจนบัดนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากยิ่งกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. ทราบยัง

สำหรับพนักงานประจำตัวจ้อยอย่ างเรา สิ่งที่เรากลัวเกรงที่สุดในที่ทำงานก็คงหนีไม่พ้นเจ้านาย ผู้ที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยแตกต่างกันไป อย่ างตัวเราเคยพบในขณะที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานหนัก ไปจนถึงวันๆไม่ทำหน้าที่การงาน รอสั่งคนนู่นครั้งคนนี้หน แต่ว่าพอใช้ได้มองดูดีๆเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แต่คนๆนี้มันจะมาบ่นว่าเกียจคร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานเยอะมิได้ไง ทำไมน่ะเหรอ นอกเหนือจากการที่จะโดนหัวหน้าของเค้าเองเกลียดแล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความเคารพนับถือด้วย หนำซ้ำบางทีก็อาจจะหาเรื่องกันเสียระบบการปกครองทั้งทีม


ถ้าให้แนะนำก็อย ากจะกล่าวว่าพย าย ามรู้เรื่องเค้าดียิ่งกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างพวกเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนอัลธพาลบ้ า ง นิสัยก็แตกต่างบ้ า งคือเรื่องธรรดา อย่ าเห็นว่าเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้ดูในมุมที่ว่าถ้าหากเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานตรงไหนไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปเจอครอบครัว

ไม่ได้อย ากอยู่มืดค่ำๆให้คนที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็มิได้อย ากทำงาน ก็อย ากท่องเที่ยวเช่นกันนั่นแหละ แม้กระนั้นแค่ออกหน้าขี้บ่นแบบพวกเรามิได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองคิดดู

เพียงแค่พวกเรานำเสนองานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจำเป็นต้องเอางานเราไปพรีเซนเทชั่นกับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องคนใดกันที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้เยอะ เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นธรรมดา

3. อย่ ามั่นใจในตัวเองเหลือเกินในโลกอินเตอร์เน็ต

คนจำนวนไม่น้อยมั่นใจว่าโลกโซเชียลเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของเรา แม้กระนั้นรู้รึเปล่าว่า HR ปัจจุบันนี้นอกเหนือจากการที่จะดู resume เราแล้ว ยังดูเ ฟ ส บุ ค ของเราด้วย สหายพวกเราที่เป็น HR รับรองมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า มองเห็นไหมว่าตัวตนบนโลกอินเตอร์เน็ต

ของพวกเรานั้นมีผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อพวกเราเป็นพนักงานประจำสุดกำลัง เรื่องพวกนี้ยิ่งต้องระมัดระวัง อย่ างพวกเราคือไม่สัมผัสเฟสบุ้คเลย หรือถ้าจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าถ้าเกิดหัวหน้ามามองเห็นก็ช่างเถอะ


ถ้าอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆแนะนำให้แยกเฟสสถานที่สำหรับทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาห้วยที่พด้วย เนื่องจาก ส่วนมากคนในสถานที่สำหรับทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่สำหรับทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้างี่เง่า ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่ๆ...!! เตือนแล้วนะ

4. โฟกัสที่ลู่วิ่งของพวกเรา สนใจ ตั้งใจ แต่... อย่ าเก็บลู่วิ่งคนอื่นๆมาอิจฉา

ช่วงปีมานี้ เพื่อนพวกเราคนจำนวนไม่น้อยเริ่มเรียนต่อ สร้างครอบครัว บางคนแปลงงานไปงานที่เงินเดือนสูงสุดๆบางบุคคลเริ่มธุรกิจของตัวเอง บางครั้งเราเลื่อนดูหน้าเฟสรวมทั้งแอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้เจริญ แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แม้กระนั้นบอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็ไม่ได้ดีมากกว่าพวกเราหรอกเผลอๆเพื่อนฝูงผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางครั้งก็อาจจะกำลังริษยาชีวิตเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกพวกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... คือตัวเราเองก็มิได้คิดเลยว่าชีวิตพวกเราดี สิ่งที่พวกเราคัดกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี ควรจดจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของพวกเราไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น

จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา รู้ดีว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร ทราบดีว่าจุดหมายเราอยากอะไร ทราบดีว่าวันนี้พวกเราประพฤติดีกว่าเมื่อวานนี้แล้วหรือยัง ก็เพียงพอแล้ว แอบมองทางวิ่งคนอื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้เราตั้งใจจริงกับชีวิตเพิ่มมากขึ้น แต่ว่าอย่ าเก็บมาตั้งใจจนมีความทุกข์พอ

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

เดี๋ยวก่อน...!! อย่ าเพิ่งตระหนกตกใจไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนไม่ได้แปลว่า ให้พวกเราไม่ต้องจิรงหัวใจกับใคร แต่ว่า... แสดงว่า " เราไม่ฝักใฝ่ข้างใด " อย่ างที่รู้กันว่าในสถานที่ทำงานหลายๆที่

มีการเล่นพวกเล่นพ้อง หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าผู้ที่เล่นการเมือง (มากมายๆ) ส่วนใหญ่ไม่มีความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแต่เล่นเค้าไว้เยอะนี่ห้ามเสียทีเลยนะ มีคนคอยซ้ำมากมายเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่คือ... การที่พวกเรามองว่าคนนี้เป็นคนยังไง จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร ไม่ได้บอกว่าให้สตอเบอร์รี่ หรือ ฝ่าฝืนตัวเอง แต่... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความชื่นชอบ

โตมาในสังคมที่ต่างกัน การที่เราดูแล้วรู้ว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะก่อให้พวกเราเป็นต่อมากๆเว้นเสียแต่วางตัวง่ายแล้ว พวกเราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมถึงบางบุคคลที่ดูแล้วไม่ถูกจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย าท ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... เราไม่เคยทราบหรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปดำเนินงานกับคนใดกัน ด้วยเหตุดังกล่าว อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงไม่ได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แม้กระนั้นในอนาคต บางทีอาจได้วัวรจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดีมากกว่าโดนด่าตอนอายุ 50

ด้วยความที่อายุยังน้อย ความคาดหมายจากคนที่อยู่รอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ถึงแม้พวกเราจะรู้สึกกดดันสำหรับเพื่อการปฏิบัติงานสุดๆแม้กระนั้นเชื่อเถอะ เราล้มเหลววันนี้ ดีมากยิ่งกว่าเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนกระทั่ง 50-60 ก็ผ่านช่วงแบบพวกเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะแนะนำคือ.. ใช้เวลานี้ให้คุ้ม เรามิได้อายุ 20 กว่าๆตลอดกาล อย ากทำอะไรทำ อย ากถามอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันห่วยก็พรีเซ้นไปเรื่อยๆฝึกฝนไปเรื่อยๆโดนด่าเดี๋ยวนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนดุตอนอายุ 50 เยอะ ถึงแม้จะบกพร่อง ด้วยความยังเด็ก แล้วก็ อ่อนประสบการณ์ คนโดยมากพร้อมจะยกโทษเราเสมอ ดังนั้น ล้มเหลวจำนวนมากเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามต่างกันระหว่าง " เพื่อนฝูง " กับ " สหายร่วมงาน " คืออะไร ที่เค้าพูดว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนพ้องย ากก็น่าจะจริง ยุคประถม การหาสหายใหม่ไม่ย ากเท่าสมัยมัธยม และการหาเพื่อนฝูงในสมัยมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งเราโตขึ้นเท่าไหร่ เราจะหาสหายย ากขึ้นเท่านั้น และไม่จะต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่แท้ดวงใจคนนึงในที่ทำงานมันย ากแค่ไหน


นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน ทั้งยังตำแหน่ง ค่าตอบแทนรายเดือน การคาดการณ์ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของคนเราเงินเดือนอย่ างเราคือไปดำเนินงาน มิได้ไปทำกิจกรรมสานสัมพันธ์หาเพื่อนฝูง ด้วยเหตุผลดังกล่าววันๆเราจึงจะเจอแค่เพื่อนพ้องร่วมกลุ่ม ซึ่งโดยมากและเป็นการคุยกันแค่เรื่องงานเพียงแค่นั้น

เราโชคดีที่เจอกลุ่มที่ดี คุยได้ทั้งยังเรื่องเฉพาะบุคคลรวมทั้งเรื่องงาน เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน รวมทั้งเพื่อนผู้ร่วมการทำงานในครั้งเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจอย่างนี้ พวกเรามีความคิดว่ามันคือกำไรชีวิต พย าย ามหาคนพวกนี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดเดียวก็ยังดี ) ไม่จำเป็นที่ต้องอยู่ทีมเดียวกันก็ได้ แค่ได้เผชิญ

พูดคุยแลกความเซ็งก็ดี ให้พวกเราทดลองถามตนเองว่า "ถ้าหากพวกเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม" ถ้าคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนพ้องจริงๆในที่ทำงานแล้ว

7. หาคนที่เป็นมากกว่า " เพื่อนร่วมงาน " ให้เจอ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง " เพื่อน " กับ " สหายร่วมงาน " เป็นอย่างไร ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนย ากก็คงจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนฝูงใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม และการหาเพื่อนพ้องในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันมีความหมายว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าไร พวกเราจะหาเพื่อนฝูงย ากขึ้นเท่านั้น

และไม่ต้องบอกเลยว่าการหาสหายที่แท้หัวใจคนนึงในสถานที่ทำงานมันย ากแค่ไหน นอกเหนือจากการที่จะมีเรื่องผลตอบแทน ทั้งตำแหน่ง ค่าตอบแทนรายเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนค่าตอบแทนรายเดือนอย่ างพวกเราคือไปดำเนินงาน มิได้ไปทำกิจกรรมสานสมาคมหาเพื่อนพ้อง ด้วยเหตุนั้นวันๆพวกเราจึงจะเจอแค่เพื่อนพ้องร่วมกลุ่ม ซึ่งส่วนมากแล้วหลังจากนั้นก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานแค่นั้น

เราโชคดีที่พบกลุ่มที่ดี คุยได้ทั้งเรื่องส่วนตัวและก็เรื่องงาน เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน รวมทั้งเพื่อนผู้ร่วมการทำงานในคราวเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจแบบงี้ เรารู้สึกว่ามันคือกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้พบในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดนึงก็ยังดี ) ไม่จำเป็นต้องอยู่ทีมเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้เผชิญ เสวนาเปลี่ยนความเซ็งก็ดี ให้พวกเราลองถามตนเองว่า "ถ้าหากพวกเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม" ถ้าหากคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนพ้องจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้ว

8. จงเป็น " ผู้รับจ้างมืออาชีพ "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย ถ้าเกิดอย ากบรรลุผลสำเร็จ และ เป็นสุข ต้องเป็น " ผู้รับจ้างมือโปร " ให้ได้ บอกง่ายแต่ทำย ากนะ ด้วยเหตุว่าผู้รับจ้างมือโปรก็คือผู้ที่ตระหนักได้ว่า " พวกเราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าตอบแทนปริมาณหนึ่ง " ซึ่งก็ถือได้ว่าบริษัทเค้าปรารถนาอะไรบางอย่ างจากเราแลกเปลี่ยนกับค่าจ้างนั้นๆ

เราต้องทราบว่าบริษัทจ้างเรามาทำอะไร แล้วก็ ทำมันให้ดีมากยิ่งกว่าที่บริษัทมุ่งหวังถ้าเกิดอยากได้ความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่ แม้งานที่ทำอยู่รู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่สมควรอดทนทำไป


น่าจะหางานที่เราทำแล้วเรามีความสุขแล้วก็ทำเป็นดีเพื่อดึงสมรรถนะของตนออกมาให้เยอะที่สุด นอกจากจะทำให้พวกเราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังเป็นเหตุให้เราปรับปรุงตนเองอยู่ตลอดเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งเราจะทราบเองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ถูกใจให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าบุคคลอื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ หากในที่สุดพวกเราพบสายอาชีพที่พวกเรารักรวมทั้งอย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมากมาย

และด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " พวกเราถูกจ้างมาด้วยค่าแรงปริมาณหนึ่ง " อย่ าทำงานมากเกินกว่าเงินเดือนจนเกินไป ทุ่มเทได้ แต่ควรมีผลสรุปที่ดีตามออกมาด้วย ตัวอย่างเช่นได้ปรับเงินเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับบิดามารดา เครือญาติๆบ้ า ง หันกลับไปดูด้านหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้พวกเรามายืนจุดนี้ ช่วงนี้เค้าคืออะไรกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าพ่อแม่อายุมากขึ้นทุกวี่วัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย หากเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้ท่านแล้วหาเวลาไป มันไม่ลำบากหรอก แลกกับความสุขของพ่อแม่
ลูกจ้าง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/