10 อย่างที่เราควรคิด เมื่อชีวิตตกอับ

[luktan1479]

1.This too shall pass สักครู่มันก็จะผ่านไป

ถ้าหากเราเป็นพุทธศาสนิกชน พวกเราก็น่าจะเคยชินกับคำสอนที่ว่า ทุกอย่ าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วหลังจากนั้นก็ดับไป

ไม่ว่าความจะเป็นความสุข หรือ ความทุกข์ใจ มันก็จะไม่อยู่กับพวกเราตลอดกาล ประเดี๋ยวมันก็จะผ่านพ้นไป เพียงแต่เข้าใจถึงธรรมดาข้อนี้


2.Somethings are going right มันก็มีบางเรื่องที่ดีบ้างหละ


ขณะที่พวกเราจมอยู่กับความทุกข์ เราก็มักจะโฟกัสอยู่กับปัญหา กระทั่งลืมมองดูถึงสิ่งดีๆเยอะมากที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน

ให้ทดลองใช้หลักการ gratitude journey ดูนะคะ ทดลองเขียนขอบพระคุณ​หรือเขียนสิ่งที่ดีในวันแล้ววันเล่าดูแล้วพวกเราจะพบว่า

ที่จริงแล้ว ในชีวิตเราก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นตั้งมาก ง่ายๆเลยเป็น เราตื่นนอนขึ้นมาอีกหนึ่งวันด้วยสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงบริบูรณ์

พร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหา รวมทั้งสร้างประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ได้อีกตั้งหนึ่งวัน ฯลฯ

3.I have some control มีเรื่องมีราวที่ฉันสามารถควบคุมได้

เมื่อกำเนิดปัญหาขึ้นกับพวกเรา มันก็จะดูอย่างกับว่าเราจัดแจงอะไรกับมันมิได้สักอย่ าง แต่ว่าจริงๆแล้วสิ่งที่พวกเราจัดแจงได้ ก็คือตัวเรา


ความคิดพวกเรา กระบวนการเลือกตอบสนองของเรา ต้องมีสติสัมปชัญญะ รวมทั้งใช้สติปัญญาในการขจัดปัญหา


ที่สำคัญจำไว้ว่า ความสุขหรือความทุกข์ใจ เกิดที่จิตใจของพวกเราเอง ไม่ใช่ผู้อื่นเลย

4.I can ask for helpฉันอ้อนวอนได้

ไม่แปลกเลยถ้าหากเราจะอ้อนวอนเมื่อเราอยากมัน แต่ก่อนอื่นพวกเราควรพย าย ามขจัดปัญหาด้วยตัวเราเองเสียก่อน แต่

เมื่อมันเหนือบ่ากว่าแรง การขอร้องจากคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องไม่ถูก

โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวของเรา ผู้ที่รักพวกเรา พวกเขาพร้อมจะช่วยเหลือเราเสมอ คุณมิได้อยู่ตามลำพังบนโลกใบนี้นะคะ

5.Much of this won't matter in a few years หลายเรื่องที่เกิดขึ้น ในอีกไม่กี่ปีด้านหน้ามันก็จะไม่มีความสำคัญอะไรอีกต่อไป

คิดถึงตอนพวกเราเป็นเด็กสิค่ะ ปัญหาอันใหญ่หลวงของเราก็คือ การลืมสมุดการบ้าน

พวกเรารู้สึกเครียดเหมือนโลกจะถล่มทลายมากมายๆแต่เพียงพอพวกเราโตขึ้น เราดูย้อนกลับไป

เราก็หัวเราะให้ประเด็นนั้นๆได้ ปัญหาทุกปัญหาผ่านมาเพื่อทำให้เรา เข้มแข็ง แล้วก็เติบโตขึ้น

เมื่อคุณผ่านมันไปได้ หัวข้อนี้ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เปรียบได้ดั่งเรื่องสมุดการบ้านในวัยเด็กของคุณเพียงแค่นั้น

6.I can handle this ฉันจัดแจงมันได้

ไม่มีผู้ใดจะเชื่อมั่นในตัวเรา หากเรายังไม่มั่นใจในตัวเราเองก่อน ไม่มีผู้ใดจะช่วยพวกเราได้ตลอด ถ้าหากพวกเราไม่ช่วยเหลือตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดปัญหา

อะไรขึ้นในชีวิต จงมีสติสัมปชัญญะ แล้วให้กำลังใจกับตนเองว่า ฉันจะจัดแจงมันได้


หากว่าในช่วงเวลานั้นเราจะรู้สึกแย่เพียงไหน ก็ควรจดจำไว้ว่า พวกเราจะผ่านมันไปได้


7.Something good will come out of this เรื่องดีๆจะมีสาเหตุมาจากเหตุนี้

เหรียญยังมีสองด้าน ราวกับๆกับทุกเรื่องราวในชีวิตของพวกเราที่มีนานัปการดูให้เลือกดูในวันที่พวกเราประสบปัญหา

ได้แก่ ผู้ที่เรารักและก็ทุ่มเททุกๆสิ่งทุกๆอย่างทุกอย่ างให้ กลับมาทิ้งพวกเราไป นั่นอาจเป็นบทเรียนรวมทั้งบททดลองที่สำคัญ

ที่ทำให้เรากลับมารู้จักรักตนเอง และเห็นค่าของตัวเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มทำอะไรดีๆให้ชีวิต แทนที่จะเสียเวล่ำเวลาไปกับความทุกข์ใจ

เสมือนก่อนหน้าที่ผ่านมา และก็ผลที่เกิดก็คือ ชีวิตพวกเราดีขึ้น พัฒนาไปดังที่พวกเราได้มุ่งมาดไว้ ด้วยฝีมือของเราเอง ฯลฯ จงมองหาข้อดีให้เจอ

8.I can accept what's out of my control ฉันสามารถยอมรับในสิ่งที่อยู่นอกจากการควบคุมของฉันได้

ในชีวิตจริงมีเหตุมากมายที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ยิ่งพวกเราอย ากควบคุมมันมากแค่ไหน อย ากไปบังคับมันเยอะแค่ไหน เรายิ่งเป็นทุกข์

วิธีการทำดวงใจยอมรับความจริงข้อนี้ให้ได้ และปล่อยวาง เอาพลังกาย พลังใจที่มีไปทุ่มเทให้กับสิ่งที่พวกเราควบคุมได้ นั่นคือ ตัวเราเองดีมากยิ่งกว่า

9.I have overcome past difficulties ฉันเคยผ่านเรื่องย ากๆมาแล้วในชีวิต

บางเวลาการย้อนไปดูความสำเร็จก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็ช่วยพวกเราได้ ความตั้งใจ ความพย าย าม

หรือเรื่องราวย ากลำบากที่ผ่านมาแล้วในอดีต เรายังเคยผ่านมันมาได้

และก็นี่ก็เป็นแค่อีกหนึ่งบททดสอบที่เราก็จะผ่านมันไปได้เช่นเดียวกัน

10.I need to take care of myself ฉันควรต้องดูแลตนเอง

ไม่มีใครจะรักพวกเราได้มากเท่ากับเรารักตัวเองค่ะ ด้วยเหตุดังกล่าว จงดูแลสุขภาพกาย สุขภาพหัวใจของเราให้ดี

ในชีวิตนี้มีเรื่องมีราวราวอีกมากมายที่รอพวกเราอยู่ อย่ าหยุดตัวเอง เพียงแต่ปัญหาชั่วคราวในวันนี้ สู้ถัดไปนะคะ
เตือนสติ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13250/