ประชาชนไทยจำนวนไม่ใช่น้อย เป็น “ตับแข็ง” เพราะว่า สาเหตุใด

[Ailie662]

ตามสถิติ โรคตับแข็ง เป็นสาเหตุของการจากไปของชาวโลกราว 25,000 คนในแต่ละปี และถูกจัดให้เป็นมูลเหตุการถึงแก่กรรมที่เกิดจากโรคเป็นอันดับที่ 8ตับแข็ง มีเหตุที่เกิดจากเนื้อเยื่อตับถูกทำลายจากหลายสาเหตุอยู่เรื่อยๆเป็นระยะเวลานาน เป็นสาเหตุให้เกิดตับอักเสบเรื้อรัง ปรากฏพังผืดในเนื้อตับ หากว่าไม่ได้รับการดูแลและรักษาที่เหมาะสมจะแปลงเป็นโรค

ตับแข็งท้ายที่สุด เมื่อเป็นตับแข็ง ตับไม่สามารถที่จะปฏิบัติงานได้ปกติ เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆดังเช่นว่า ดีซ่าน ท้องมาน สับสน เลือดออกง่าย เส้นโลหิตโป่งพองในหลอดทางเดินอาหาร ตับวาย มะเร็งตับและก็อาจจะถึงแก่ความตายได้  โรคตับแข็งสามารถเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากหลายสาเหตุ อาทิเช่น                                                                                 
[list=1]

• ไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบบีและก็ซี
• การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จำนวนมากและก็เป็นเวลาอย่างยาวนาน
• โรคท่อน้ำดีฝ่อตั้งแต่แรกกำเนิด (Biliary atresia)
• การได้รับยาบางชนิดหรือสมุนไพรบางสิ่งที่ที่ก่อให้เกิดผลต่อตับ
• สภาวะไขมันคั่งตับ มักพบบ่อยในคนอ้วน หรือคนเจ็บเบาหวาน
• การมีสภาวะหัวใจทางฝั่งขวาล้มเหลวเรื้อรัง
• มีการอุดตันของหลอดโลหิตดำทางออกของตับ

   เมื่อเป็นตับแข็งจะรักษาได้แบบไหน                                                                                                     
[list=1]

• รักษาตามมูลเหตุที่นำมาสู่โรคตับ อาทิเช่น โรคตับจากดื่มแอลกอฮอล์ สมควรหยุดการดื่มแอลกอฮอล์ โรคตับจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี ควรรักษาโดยใช้ยาต้านทานเชื้อโรค ไขมันพอกตับควรควบคุมอาหารชนิดแป้ง น้ำตาลและไขมัน เล่นกีฬาสม่ำเสมอ
• เอาใจใส่สุขภาพให้แข็งแรง ทานอาหารครบหมู่ สารอาหารแล้วก็พลังงานพอเพียง ไม่รับประทานอาหารที่ไม่ผ่านความร้อนไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์ และก็หลีกยาที่ไม่จำเป็น
• สมควรพบแพทย์ตามนัดตามนัดทุกครั้ง เพื่อเข้ารับการรักษาภาวะแทรกซ้อนจากโรคตับ

 ในอดีตโรคตับแข็งไม่อาจจะรักษาให้หายสนิทได้ เว้นเสียแต่การปลูกถ่ายตับในเคสที่โรคเป็นมากแล้ว แม้กระนั้นบัดเดี๋ยวนี้พบว่าการเอามูลเหตุปัจจัยที่กระตุ้นให้ตับเสียหายออกไปได้ก็สามารถทำให้การทำงานของตับดีมากยิ่งขึ้นได้ อย่างเช่น การใช้ยาระงับไวรัสบีหรือซี การหยุดดื่มแอลกอฮอล์ การให้ยาขับเหล็กหรือทองแดง เป็นต้น