• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นเพราะเหตุใด ? รักษาได้ยังไง ?

Started by PostDD, January 06, 2023, 03:33:00 AM

Previous topic - Next topic

PostDD

ตับมีปัญหา จำต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกรอบ เพราะว่าถ้าเกิดปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง รวมทั้งโรคมะเร็งตับได้เช่นเดียวกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อ กล่าวย้ำเตือนถึงจุดสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย หากคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และก็เมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะทราบได้ยังไงว่าตับกำลังประสบปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? แล้วก็ควรดูแลบำรุงเช่นไร..? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเหมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งยังโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด อื่นๆอีกมากมาย) และยังเป็นโรงงานดัดแปลง (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน) ถ้าเกิดร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เสมือนตายทั้งเป็น คำบอกเล่าที่ว่าตับเป็นเหมือนหัวใจดวงลำดับที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการสร้าง
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซ่อมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็ง อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด ได้แก่ อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารแล้วก็เกลือแร่เอาไว้ภายในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยเผาผลาญไขมัน รวมถึงมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารชนิดไขมัน แล้วก็ถึงสารเริ่มของฮอร์โมนบางประเภท
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินและก็เกลือแร่บางประเภทที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยดัดแปลง อาหารและยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองพิษในเลือด
- ขับของเสียออกจากร่างกายในแบบฉี่ หรือขับถ่ายมาพร้อมกับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบพบเจอกับปัญหาทรุดโทรมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งยังจากเชื้อไวรัส หรือโรคจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่เกิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักเกิดขึ้นจากการกระทำทำร้ายตับยกตัวอย่างเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบกินอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความเครียด
4.ชอบนอนดึกดื่น ตื่นสาย
5.รับประทานยาหรืออาหารเสริมเยอะเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารยามเช้า
9.ชอบกินอาหารครึ่งดิบครึ่งสุก
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลพวกนี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราบางครั้งก็อาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบ ก็เลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานหนัก 24 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในแต่ละวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองดูอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา ได้แก่ มีลักษณะเหน็ดเหนื่อยง่าย เมื่อยล้า , มีปัญหาสำหรับในการนอน , อาการท้องอืดเสมอๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการของกินลดน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต เป็นต้นหากคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังไม่สนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกครั้งความน่ากลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นโรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลและรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยทางด้านทฤษฎีแม้เราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ฉะนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตนเองได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเย็นชาให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะถ้าเกิดตับอักเสบบ่อยๆจนเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้น ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง.. สิ่งจำเป็นที่สุดเป็น การเอาใจใส่บำรุงตับเพื่อคุ้มครองป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในตอนหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
เลี่ยงของว่าง เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นรวมทั้งรสแทนน้ำตาลรวมทั้งผงชูรส
รับประทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรืออย่างต่ำ 60 นาที/อาทิตย์)
ระหว่างที่ทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกำจัดของเสียในเลือด รวมถึงก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับยาเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ให้น้อยลงที่สุด
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือรอบๆที่มีการแปดเปื้อนของสารเคมี บริเวณที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นถ้าเกิดปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม เพิ่มเติมเป็นถ้าเกิดรู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราบางทีอาจทำเป็นยาก ลองมามองเคล็ดลับน่ารู้ ที่สามารถช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่ารู้ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องรับประทาน..เรื่องสำคัญ" ของกินที่เรารับเข้าไปในทุกๆวันก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้เช่นเดียวกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรารับประทานอะไรลงไป.. รวมทั้งนี่เป็น 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเห็นได้ตามตลาดทั่วไป เปิดตู้แช่เย็นเราก็เจอ แต่ว่าเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แอบแฝงไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ แล้วก็ป้องกันตับจากสารพิษ รวมทั้ง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานค้นคว้าวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับเพื่อการลดไขมันในคนที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
แม้ชื่อจะไม่ชินหูใครหลายคน แต่มันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกรวมทั้งกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมทั้งสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งทำให้ตับมีสุขภาพดี ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นเลิศ โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการศึกษาค้นคว้าว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆภายในร่างกาย อีกทั้งพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวจำนวน 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย แล้วก็ยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ชะล้างพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนโรคร้ายอาจถามหาแบบไม่ทันรู้ตัว เมื่อจะต้องใช้ชีวิตและก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถป้องกันแล้วก็ลดความเสี่ยงในการเป็น ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ โรคยอดนิยมที่คร่าชีวิตคนไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงเราทำขึ้นเองได้.. โดยถ้าเกิดสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากขอคำแนะนำผู้เชี่ยวชาญ ขอรับคำปรึกษาหารือปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage แล้วก็ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้ที่มีความเชี่ยวชาญรวมทั้งเภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำคุณในทุกเมื่อ